แดนปลาดิบ สวรรค์ของคนไทยจริงหรือ? ตอนภาษาและการสื่อสาร

ตอนภาษาและการสื่อสาร




ประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าใครก็รู้กันว่าขึ้นชื่อมากก เรื่องคุยกันไม่รู้เรื่อง คนในก็ไม่สนภาษาอังกฤษ คนนอกก็ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น เที่ยวทีก็ภาษามือโบกไปโบกมา เอ๊ยย เข้าใจเฉยเลย จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ว่าคนญี่ปุ่นไม่สนใจภาษาอังกฤษทุกคนนะ เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็เริ่มให้ความสนใจในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเยอะขึ้น เพราะธุรกิจที่มีชาวต่างชาติมาลงทุนในญี่ปุ่นยุคนี้เริ่มเยอะขึ้น ทำให้คนรุ่นนี้เริ่มเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษ เพียงแต่ว่าต้องยอมรับเลยว่าชาตินี้เวลาพูดภาษาอังกฤษ สำเนียงเขาเป็นเอกลักษณ์มาก จนคนฟังมึนตึบไปเลย จริงๆถ้าจะพูดถึงประเด็นการสื่อสารของประเทศนี้อาจจะต้องขอแบ่งเป็น 2 ส่วนคือสำหรับการท่องเที่ยว และสำหรับการทำงาน เพราะว่า 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันในบางจุด

・สำหรับการท่องเที่ยว
ประเทศนี้ก็มีหลายคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย แล้วลองไปเที่ยวดูก็ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะใช้ภาษามือ หรือภาษาอังกฤษดู ก็ไปเที่ยวสนุกได้ แต่ถ้าเราไม่สามารถสื่อสารกับคนชาตินี้ได้ ปัญหามันจะมาอยู่ตอนเราอยากจะถามใครสักคนตอนหลงทาง หรือเนตหมดแล้วทำอะไรไม่ได้ คงเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นน่าดู จริงๆสำหรับการเที่ยว การเรียนภาษาญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้จำเป็น แต่ถ้าเรารู้ไว้บ้างเราจะเอาตัวรอดได้ไม่มากก็น้อยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เอาจริงๆภาษาญี่ปุ่นบทเรียนเยอะมากก หลากหลายขั้น แต่สำหรับการเที่ยวอาจไม่ต้องไปถึงขั้นสูงอะไรขนาดนั้น ผู้อ่านอาจจะรู้จักการสอบ JLPT เราจะขออิงระดับภาษาตามการระดับการสอบนี้นะ

สำหรับเราคิดว่าการเที่ยวโดยที่สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นสื่อสารกับคนทั่วไปรู้เรื่อง น่าจะอยู่ในระดับ N4 เพราะระดับนี้เราจะสามารถสื่อสารเพื่อถามเส้นทางได้ ถามโดยใช้คำถาม "อะไร" ได้ พูดคุยซื้อของรู้เรื่องเหมือนกัน ก็อาจจะทำให้การเที่ยวสนุกขึ้น หรืออาจจะอินกับประเทศนี้ขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย แล้วกลับกันอาจจะสงสัยต่อว่าพูดได้แล้วจะฟังรู้เรื่องไหมนะ? อันนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบ การเรียนเลย ถ้าเราเรียนในห้องที่มีการฝึกการสื่อสาร อาจจะค่อยๆชินกับสำเนียงหรือการพูดคุยด้วยภาษาญี่ปุ่น คงทำให้ประหม่าน้อยลง แต่สำหรับบางคนที่ไม่เคยฝึกพูดมา แม้จะได้ N4 ก็อาจจะไม่ชินกับการพูดคุยจริงก็เป็นได้

・สำหรับการทำงาน
สำหรับการทำงานแน่นอนถ้าไม่รู้ภาษาเลยคงแย่หน่อย ช่องทางในการหางานก็อาจจะน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ จากที่ได้เกริ่นไปบ้างแล้วด้านบน แม้จะมีบริษัทต่างชาติเริ่มเข้ามาบ้าง แต่บริษัทและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จริงๆถ้าต้องการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น แน่นอนภาษาสำคัญมาก แค่พูดงูๆปลาๆเขาคงไม่มองแน่เลย แต่ถ้าบริษัทต่างชาติในญี่ปุ่นละก็ภาษาญี่ปุ่นก็อาจจะไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น

ในระดับการทำงานละก็ ถ้าวัดกับระดับการสอบ JLPT คงต้อง N3 ขึ้นไป จริงๆควร N2 ขึ้นไปด้วยซ้ำ แต่เพราะปัญหาด้านแรงงานของประเทศนี้บางบริษัทก็เริ่มผ่อนกฎลงมาบ้าง บางบริษัทก็รับกันตั้งแต่ N4 พอเริ่มงานก็จะเพิ่มคลาสเรียนภาษาเพิ่มเติมเพื่อการสื่อสารในการทำงาน จริงๆแล้วมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ระดับภาษาอย่างเดียวแต่ประเภทงานก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ถ้าเราทำงานในแผนกการขาย แต่ภาษาได้เพียง N3 ก็อาจจะยากมากๆ แต่อย่างเราเข้าทำงานในแผนก IT ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการคุยกับคนญี่ปุ่นมากมาย ระดับภาษาเพียง N3 ก็อาจจะเพียงพอแล้ว อีกอย่างก็คือเรื่องของระดับภาษาจริงๆไม่ได้เป็นตัววัดที่ตายตัวขนาดนั้นนะ บางคนไม่เคยสอบ JLPT แต่สามารถสื่อสารได้ แค่นั้นบริษัทก็สนใจแล้ว ในแต่ละงานมีคำศัพท์เฉพาะทางของมันอยู่ถ้าเราคุ้นชิน และสามารถสื่อสารตามประเภทงานนั้นๆได้ ผลสอบก็อาจจะไม่มีผลขนาดนั้น เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ เราไม่อยากให้ไปยึดติดกับการสอบวัดผลขนาดนั้นนะ จริงอยู่มันมีผลต่อเงินพิเศษ หรือโอกาสมากมาย แต่ขอบเขตของภาษาไม่ได้มีแค่หนังสือสอบ ลองหาอะไรที่เราสนใจแล้วลองผสมกับภาษาญี่ปุ่นเข้าไปเช่น การอ่านนิยาย ติดตามวงไอดอล หรือการดูอนิเมชั่น สื่อเหล่านั้นอาจจะทำให้โลกภาษาเรากว้างมากขึ้น ต่อให้เราถือ N3 N2 เหมือนๆกับคนอื่นๆ แต่แน่นอนมุมมองภาษาเราจะกว้างกว่าคนที่อ่านเนื้อหาแค่ในหนังสือเรียนแน่นอน #

Comments